สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีความสุข

 

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและรูปแบบการทำงาน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งเร่งให้องค์กรต่างต้องปรับเปลี่ยนหรือกระทั่งละทิ้งวิถีการทำงานเดิม สุขภาพและความปลอดภัยกลายเป็นประเด็นสำคัญอันดับต้นๆ ในการทำงาน พื้นที่สำนักงานนั้นไม่ใช่ศูนย์กลางในการทำงานอีกต่อไป

 

ที่ดีแทค เราให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัย สุขภาพ และการสร้างเสริมสุขภาวะ (wellbeing) ของคนทำงาน โดยเรามีการดำเนินงานในสองด้าน ดังนี้ 1. โครงการ Mission SAFE ซึ่งมีจุดมุ่งหมายดูแลให้พนักงานปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดีในการทำงาน โดยมุ่งเน้นยิ่งขึ้นในการป้องกันอุบัติเหตุ รวมทั้งช่องทางใหม่สำหรับการติดตามตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน  2. การใช้วิถีการทำงานแบบผสมผสาน (hybrid work) เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานขององค์กรให้พร้อมสำหรับอนาคต

 

รู้หรือไม่! แค่ปรับจอให้เป็นขาวดำก็ประหยัดพลังงานไปถึง 20% คุณก็มีส่วนในการช่วยลดสภาวะอากาศรวนได้!

วิถีการทำงานที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่

จากผลวิจัย Resetting Normal: Defining the New Era of Work พบว่า...

 

คนทำงานทั่วโลกกว่า 53% ชื่นชอบการทำงานในรูปแบบผสมผสานหรือ ‘ไฮบริด’ ที่สามารถเลือกทำงานจากที่บ้านได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของวันทำงานปกติ

 

คนทำงานถึง 82% รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานเป็นแบบไฮบริด ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วย

 

 ผู้นำด้านวิถีการทำงานแบบไฮบริด 

 
ดีแทคนั้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านวิถีการทำงานแบบไฮบริดในประเทศไทย โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกนั้น เราได้ประกาศให้พนักงานจำนวนหลายพันคนทำงานจากที่บ้าน ซึ่งครอบคลุมถึงพนักงานส่วนงานคอลเซ็นเตอร์ด้วย ก่อนที่ภายหลังจะประกาศให้วิถีการทำงานรูปแบบไฮบริดนี้คงอยู่ถาวร
 
 

วิกฤติสุขภาพ และวิถีการทำงานในโลกยุคใหม่

 
วิถีการทำงานแบบไฮบริดทำให้พนักงานของเราสามารถให้บริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยท่ามกลางวิกฤติสุขภาพ ส่งผลให้คนทำงานนั้นมีความสุขรู้สึกมีอิสระและอำนาจในการตัดสินใจในการทำงาน 

‘ปรับ’ สู่วิถีการทำงาน
แบบไฮบริด
 
เพื่อลดความหนาแน่นภายในสำนักงาน ในช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นทวีความรุนแรง เราอนุญาตให้พนักงาน 95% ทำงานจากที่บ้านและเข้าออฟฟิศเฉพาะในวันที่จำเป็นเท่านั้น ขณะที่พนักงานในส่วนงานขายและโครงข่ายนั้นสลับกันเข้ามาทำงานเพื่อดูแลให้ลูกค้าได้รับบริการโดยไม่สะดุด
‘เปลี่ยน’ การวัดผลให้เหมาะสมกับสถานการณ์
 
‘เปลี่ยน’ การวัดผลให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เราใช้รูปแบบการบริหารงานแบบ tight-loose-tight เข้ามาใช้ในการบริหารบุคลากร กล่าวคือ เราชัดเจน (tight) ในเรื่องความคาดหวัง ยืดหยุ่น (loose) ในวิธีการที่ใช้ในการบรรลุเป้าหมาย และชัดเจน (tight) อีกครั้งในวิธีการวัดผลลัพธ์
‘ประสาน’ พลังเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพคนทำงาน
 
เพื่อให้การทำงานจากที่บ้านสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เราได้สนับสนุนเครื่องมือการทำงานและบริการอินเทอร์เน็ต ให้กับพนักงานดีแทค
 

นอกจากนี้ เรายังมีการดูแลพนักงานในเรื่องของอารมณ์และความเครียด ผ่านบริการให้คำปรึกษาออนไลน์จากนักจิตวิทยา และการจัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ต่างๆ อาทิ โยคะ คลาสเรียนทำอาหาร และคอร์สเรียนการลงทุน ซึ่งได้รับการออกแบบให้พนักงานทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้
 
 

สร้างทีมทำงานแห่งอนาคต

ด้วยระบบออโตเมชัน

 
ในโลกแห่งอนาคต เรามองว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาอยู่ในชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยภายในปี 2566 เราจะนำระบบออโตเมชัน (automation) มาใช้กับกระบวนการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ และมีกฎชัดเจน (rule-based) ให้ได้ 100% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดภาระงานของพนักงานจากการทำงานที่เป็นกิจวัตร และนำเวลาที่มีอยู่มุ่งทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
 
 
เทคโนโลยีออโตเมชันนี้ถูกนำมาใช้ในส่วนงานคอลเซ็นเตอร์ด้วยเช่นกัน โดยเรามีการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตัวอย่างเช่น การพัฒนาระบบ Agent Assistance ซึ่งเป็นโปรแกรมหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เสมือน ‘ผู้ช่วยมือขวา’ ให้เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์สามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการรับสายเพิ่มขึ้น 15% 

 

 
ลดอุบัติเหตุและสร้างวิถีการทำงานที่ปลอดภัย
 
ที่ดีแทค เราเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ Mission SAFE ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ผ่านการสร้างความตระหนัก ยกระดับมาตรฐาน และกำหนดความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยของแต่ละทีมงานอย่างชัดเจน ทั้งนี้ เพราะประเด็นเรื่องความปลอดภัยนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่วิกฤติโรคระบาด แต่ยังครอบคลุมถึงเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน และอุบัติเหตุในรูปแบบอื่นๆ ด้วย
ช่องทางรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยได้ด้วยตนเอง
 

ในอดีต การรายงานอุบัติเหตุของเรามุ่งความสำคัญไปที่กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ดีแทคมุ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานและเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุด้วย

ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำแพลตฟอร์ม Synergi LIFE มาใช้สำหรับพนักงานในการรายงานสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย อุบัติเหตุ และเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ เครื่องมือดังกล่าวนั้นช่วยสร้างเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรและลดอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยอาศัยการมีส่วนร่วมในเชิงรุกและการสอดส่องดูแลของพนักงานทุกคน โดยรายงานทั้งหมดจะถูกส่งไปยังทีม Health & Safety เพื่อดำเนินการตรวจสอบ แก้ไข และกำหนดมาตรการป้องกันต่อไป
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามุมมองเรื่องความปลอดภัยนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและยากต่อการคาดการณ์ ที่ดีแทค เรามีการเก็บรวบรวมและศึกษาข้อมูลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับมือกับความคลุมเครือไม่แน่นอน เราต้องหมั่นปรับตัวอยู่ตลอดเวลา และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด” 
 
กุลธวัช สินธุเสก
ผู้อำนวยการ ฝ่ายอาคารสถานที่ ความปลอดภัย และการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ดีแทค