ดีแทคได้ริเริ่มโครงการเน็ตอาสาตั้งแต่ปี 2557 มีเป้าหมายหลักคือ การเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ หน่วยงานภาคประชาสังคม และดีแทค เพื่อนำไปสู่การสร้างผลลัพธ์สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษกิจและสังคมที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับประเทศ
“การลดความเหลื่อมล้ำ”การดำเนินงานโครงการเน็ตอาสาถือว่าได้สร้างประโยชน์แก่สังคมเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นผลจากการเน้นกลยุทธ์ “การลดความเหลื่อมล้ำ” ในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใช้วิธีการ train-the-trainer ควบคู่ไปกับการขยายผลอย่างต่อเนื่อง และจัดตั้งทีมเน็ตอาสาที่มีความรู้ ในเรื่องเทคโนโลยีและมีศักยภาพในการเข้าถึงหน่วยงานในระดับชุมชน ทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถสนับสนุนและตอบสนองต่อเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานของภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2561 โครงการเน็ตอาสาได้มุ่งเน้นสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ดังต่อไปนี้
1.การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
2.การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและสร้างผู้ประกอบการในชุมชน
3.การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ
4.การสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศหรือ “โครงการเน็ตประชารัฐ” และการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government)
“การลดความเหลื่อมล้ำ”การดำเนินงานโครงการเน็ตอาสาถือว่าได้สร้างประโยชน์แก่สังคมเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นผลจากการเน้นกลยุทธ์ “การลดความเหลื่อมล้ำ” ในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใช้วิธีการ train-the-trainer ควบคู่ไปกับการขยายผลอย่างต่อเนื่อง และจัดตั้งทีมเน็ตอาสาที่มีความรู้ ในเรื่องเทคโนโลยีและมีศักยภาพในการเข้าถึงหน่วยงานในระดับชุมชน ทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถสนับสนุนและตอบสนองต่อเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานของภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2561 โครงการเน็ตอา
...ภายใต้บันทึกความร่วมมือระหว่างดีแทค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ซึ่งในขณะนั้นเป็นกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปี 2558-2562 โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพิ่มทักษะความรู้ทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่บุคลากรของ กศน. ให้สามารถทำหน้าที่เป็นวิทยากรแกนนำ หรือครู ก. ขยายการเรียนรู้ด้านดิจิทัลไปทั่วประเทศ โดยในปี 2561 โครงการเน็ตอาสาได้อบรมบุคลากรกศน.จากศูนย์กศน.ระดับตำบลจำนวน 7,424 ศูนย์ ให้เป็นครู ก. เพิ่มขึ้นอีก 10,000 คน ซึ่งครู ก. เหล่านี้ได้ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้คนในชุมชนทุกตำบลใช้นวัตกรรม สามารถเพิ่มจำนวนครู ก.ได้กว่า 300,000 คน ทำให้มีจำนวนครู ก. ทั้งหมดถึง 886,800 คนที่ช่วยเผยแพร่ทักษะดิจิทัลให้แก่ประชากรในชุมชนทั่วประเทศ
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างดีแทค และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ปี 2561-2564 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ สนับสนุนและส่งเสริม SMEs เข้าถึงบริการแพลตฟอร์มผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมให้ SMEs มีศักยภาพความพร้อมในด้านการประกอบธุรกิจ หรือการบริหารจัดการธุรกิจตามรูปแบบหรือแนวทางที่ราชการกำหนด และการรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ เพื่อพัฒนาศักยภาพสู่การเป็นผู้ประกอบการค้าอีคอมเมิร์ซในระดับสากล
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างดีแทค และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ปี 2561-2564 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ สนับสนุนและส่งเสริม SMEs เข้าถึงบริการแพลตฟอร์มผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมให้ SMEs มีศักยภาพความพร้อมในด้านการประกอบธุรกิจ หรือการบริหารจัดการธุรกิจตามรูปแบบหรือแนวทางที่ราชการกำหนด และการรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ เพื่อพัฒนาศักยภาพสู่การเป็นผู้ประกอบการค้าอีคอมเมิร์ซในระดับสากล
ผลจากการดำเนินงานดังกล่าว พบว่าหน่วยงานภาครัฐในระดับท้องถิ่นมีความตื่นตัว เห็นความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยีดิจิทัล และมีแผนงานที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลด้านต่าง ๆ มาใช้เพื่อการปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลนเรนทร อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ได้นำองค์ความรู้จากการอบรมเชิง
ปฏิบัติไปออกแบบและพัฒนาระบบการจองคิว มาบริหารจัดการปัญหาการคับคั่งของผู้ป่วยแต่ละประเภททั้งผู้ป่วยมาตามแพทย์นัด หรือผู้ป่วยทั่วไป เพื่อไม่ให้ต้องรอคิวนาน ลดการเสียเวลาในการรอคิว และลดการแออัดของผู้ป่วยที่เดินทางมารอคิวในโรงพยาบาล
ส่วนส่วนราชการอื่น ๆ ที่มาเข้ารับการอบรมได้นำองค์ความรู้ไปพัฒนาช่องทางการให้ข้อมูลข่าวสารสาธารณะแก่ประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ในขณะเดียวกันก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคธุรกิจและภาคประชาสังคมในท้องถิ่นในการดำเนินงานด้วยเช่นกัน ถือเป็นการส่งเสริมการทำงานในรูปแบบ public-private partnership เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในระดับประเทศ
ผลจากการดำเนินงานดังกล่าว พบว่าหน่วยงานภาครัฐในระดับท้องถิ่นมีความตื่นตัว เห็นความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยีดิจิทัล และมีแผนงานที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลด้านต่าง ๆ มาใช้เพื่อการปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลนเรนทร อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ได้นำองค์ความรู้จากการอบรมเชิง
ปฏิบัติไปออกแบบและพัฒนาระบบการจองคิว มาบริหารจัดการปัญหาการคับคั่งของผู้ป่วยแต่ละประเภททั้งผู้ป่วยมาตามแพทย์นัด หรือผู้ป่วยทั่วไป เพื่อไม่ให้ต้องรอคิวนาน ลดการเสียเวลาในการรอคิ
ในปี 2561 โครงการเน็ตอาสาได้ขับเคลื่อนให้ชุมชนที่มีจุดบริการเน็ตประชาชนตระหนักต่อการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต รณรงค์ให้คนในชุมชนเรียนรู้การลงทะเบียนใช้บริการเน็ตประชารัฐของรัฐบาล และใช้ประโยชน์ในด้านการค้าออนไลน์ชุมชน โดยร่วมมือกับสำนักงานสถิติจังหวัดในการจัดการอบรมให้กับตัวแทนหมู่บ้านที่ติดตั้งจุดบริการเน็ตประชารัฐในเรื่องการพัฒนาทักษะดิจิทัล การนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้เป็นสื่อและช่องทางการประชาสัมพันธ์งานภาครัฐ สินค้าชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสู่สังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยและรู้เท่าทัน
ในปี 2561 โครงการเน็ตอาสาได้ขับเคลื่อนให้ชุมชนที่มีจุดบริการเน็ตประชาชนตระหนักต่อการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต รณรงค์ให้คนในชุมชนเรียนรู้การลงทะเบียนใช้บริการเน็ตประชารัฐของรัฐบาล และใช้ประโยชน์ในด้านการค้าออนไลน์ชุมชน โดยร่วมมือกับสำนักงานสถิติจังหวัดในการจัดการอบรมให้กับตัวแทนหมู่บ้านที่ติดตั้งจุดบริการเน็ตประชารัฐในเรื่องการพัฒนาทักษะดิจิทัล การนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้เป็นสื่อและช่องทางการประชาสัมพันธ์งานภาครัฐ สินค้าชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสู่สังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยและรู้เท่าทัน
...ท่านสามารถดาวน์โหลดเอกเอกสารได้จาก Link ด้านล่างนี้