3 เทคนิคถ่ายวิดีโอให้ปังด้วย Cinematic Mode บน iPhone 13 3 เทคนิคถ่ายวิดีโอให้ปังด้วย Cinematic Mode บน iPhone 13
primal

primal

4 มกราคม 2565

SHARE THIS

Youtuber มือใหม่ใช้ Cinematic Mode บน iPhone 13 ยังไงให้ปัง?

เทคนิคถ่ายคลิปให้สวยด้วย Cinematic Mode ใน iPhone 13 - dtac

โลกยุคใหม่ ใคร ๆ ก็ทำคอนเทนต์หรือเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้! แค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอ แถมยังเป็นหนทางสร้างรายได้เสริมจากสิ่งที่รักได้อีกด้วย

วันนี้ดีแทคขอเอาใจสาวก iPhone 13 ที่ผันตัวมาเป็น Youtuber มือใหม่ รวมไปถึงคนที่ชอบถ่ายรูปและถ่ายคลิปลง Instagram Facebook TikTok ว่ามีเทคนิคอะไรดี ๆ ที่จะช่วยให้คลิปที่ถ่ายจากสมาร์ทโฟนดูมีความเป็นมืออาชีพไม่แพ้มีช่างกล้องมือโปรมาถ่ายทำให้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปรู้จักเจ้าฟังก์ชันใหม่ที่เรียกว่า Cinematic Mode นี้ให้มากขึ้นกันได้เลย!

 

Cinematic Mode ฟังก์ชันใหม่ ยก Hollywood มาไว้ในมือคุณ

เดิมทีกล้องของ Apple ขึ้นชื่อในเรื่องการถ่ายรูปที่ให้แสงและมีสีสันที่ดูสวยลงตัวอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เปิดตัว iPhone 13 ทั้งที ทางแบรนด์จึงออกฟังก์ชันใหม่ที่เอาใจคนชอบถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ นั่นก็คือฟังก์ชัน Cinematic Mode หรือโหมดภาพยนตร์ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนจากวิดีโอแบบเดิม ๆ ให้ดูมีมิติและรองรับการตัดต่อที่เข้าขั้นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

    • Cinematic Mode ให้ไฟล์ที่มีความละเอียดสูง รองรับการแก้ไขจุดโฟกัสของวิดีโอเพื่อเน้นวัตถุหรือนักแสดงในแต่ละซีนให้ลื่นไหลไม่ขัดตา
    • สามารถนำไปตัดต่อในขั้นตอน Post Production เช่น งานเกรดสีภาพ หรือเข้าแอปพลิเคชันอื่นง่ายกว่า เพราะไฟล์ที่บันทึกมีความยืดหยุ่น
      • รองรับการบันทึกไฟแบบ Log ซึ่งจะสะดวกมากเวลานำไปแก้ไขสีหรือตัดต่อร่วมกับวิดีโอที่ถ่ายทำด้วยกล้องตัวอื่นที่มีค่าความกว้างของสีไม่เท่ากัน
      • รองรับการบันทึกไฟล์แบบ ProRes ซึ่งเป็นไฟล์แบบเฉพาะที่เพิ่งเริ่มมีใช้ใน iPhone 13 รุ่น Pro เท่านั้น ซึ่งมีข้อดีคือ ได้คุณภาพวิดีโอแบบมืออาชีพ รองรับการตัดต่อแบบ Multistream ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ได้อย่างง่ายดาย หมดปัญหาเรื่องการแปลงหรือโอนย้ายไฟล์ที่ซับซ้อน

 

แชร์ 3 เทคนิคถ่ายภาพทำวิดีโอขั้นเทพด้วย iPhone 13

มีอุปกรณ์ดีแล้วก็ต้องรู้ทริคในการนำฟังก์ชันเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด อย่างเทคนิค 3 ข้อนี้ที่บางคนอาจจะละเลย หรือไม่ทันได้นึกถึงเวลาถ่ายทำ

1. การถือกล้องและการใช้ขาตั้งกล้อง

เวลาถ่ายทำวิดีโอ คุณจะต้องวางแผนให้ดีก่อนว่าต้องการให้มุมกล้องอยู่ในบริเวณใดของวัตถุที่ต้องการโฟกัส และต้องการให้กล้องเคลื่อนไหวด้วยความนิ่งและมั่นคง หรืออยากให้ออกมาในแบบส่ายไปมาตามอารมณ์ของคอนเทนต์ โดยเฉพาะการถ่ายทำในเวลากลางคืนที่ต้องใส่ใจเรื่องการสั่นของกล้องมากเป็นพิเศษ ถึงแม้ iPhone 13 จะรองรับการถ่ายภาพกลางคืนได้ดีและมี Cinematic Mode ที่คมชัดและให้ความสว่างที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการงานที่เนี้ยบยิ่งขึ้นควรใช้ขาตั้งกล้องเพื่อให้ได้ภาพที่นิ่งและคมชัดแบบเทคเดียวผ่าน ไม่ต้องถ่ายซ่อม

2. ปุ่ม AE/AF Lock

อย่าลืมใช้งานปุ่ม AE/AF Lock ที่มีใน iPhone 13 ให้เป็นประโยชน์ โดยเมื่อต้องการปรับแสงหรือโฟกัสเฉพาะจุดเวลาถ่าย close up หรืออยากเล่นกับจุดโฟกัสและไม่อยากให้เครื่องปรับอยู่ในโหมดอัตโนมัติ สามารถกด AE/AF Lock เพื่อล็อคการปรับ Auto Exposure และ Auto Focus จะช่วยให้ภาพที่ได้ตรงตามระดับแสงที่ต้องการขึ้น

3. เลือกจุดโฟกัสที่ใช่

ความดีงามอีกอย่างของ Cinematic Mode คือคุณสามารถกำหนดระยะชัดลึก (f) และเลือกตำแหน่งที่ต้องการโฟกัสได้ตอนถ่ายทำ แต่หากยังไม่พอใจก็สามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสได้อีกผ่านการแก้ไขวิดีโอหลังบ้าน! หากใครอยากเปลี่ยนวัตถุที่ต้องการเน้นจึงไม่ต้องถ่ายใหม่ให้ยุ่งยาก ซึ่งการเปลี่ยนจุดโฟกัสมีขั้นตอนดังนี้

      • คลิปนั้นต้องถ่ายด้วย Cinematic Mode 
      • กด Edit 
      • เลือกจุดโฟกัสที่ต้องการเปลี่ยนจากแถบม้วนภาพยนตร์ที่บันทึกมา และขณะแก้ไข อย่าลืมสังเกตว่า Manual Tracking เปิดใช้งานอยู่หรือเปล่า โดยดูที่ไอคอนด้านบนซ้ายของจอ

 

ฟังก์ชันเด็ดขนาดนี้ต้องซื้อมาพิสูจน์กันหน่อย! เพราะใช้ iPhone 13 เครื่องเดียวก็เหมือนมีสตูดิโอขนาดย่อม ๆ อยู่ในมือ เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนที่คนทั่วโลกไว้วางใจในราคาพิเศษกับดีแทคได้เลยวันนี้ บอกเลยว่า นอกจากราคาโปรโมชันจะคุ้มมาก ๆ เพราะเริ่มต้นเพียง 5,400 บาทแล้ว แพ็กเกจที่ได้ยังพิเศษสุด ๆ แถมเน็ตไม่หมดก็ทบได้อีก จะมาซื้อที่ศูนย์บริการหรือช้อปออนไลน์ก็ ครบ ดี ถูก เช็กดีแทค!

โปรโมชันแนะนำ