ร้อนนักใช่มั้ย! จัดเลย “ข้าวแช่” เมนูเด็ดคลายร้อนที่ต้องไม่พลาด ร้อนนักใช่มั้ย! จัดเลย “ข้าวแช่” เมนูเด็ดคลายร้อนที่ต้องไม่พลาด
Little Sundae

Little Sundae

14 พฤษภาคม 2562

SHARE THIS

ข้าวแช่ สดชื่นกับเมนูคลายร้อนแบบไทย ๆ - LIV | dtac

อากาศร้อนจนแทบจะละลายขนาดนี้ จะมีอะไรฟินไปกว่าการได้นอนเปิดแอร์เย็น ๆ หรือนั่งจิบเครื่องดื่ม ยิ่งได้ทานน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีอย่างเจ้าบิงซูถ้วยโต ๆ ด้วยละก็ ยิ่งสดชื่นสุด ๆ กันไปเลย แต่คุณรู้ไหมว่านอกจากไอศกรีมและบิงซูแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ช่วยคลายร้อนได้ดียิ่งนักในช่วงที่แสงแดดแผดเผาเช่นนี้ ที่สำคัญมันอร่อยสุโค่ยยยย...มาก แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เมนูเด็ดที่ว่าก็คือ “ข้าวแช่” นั่นเอง

พูดถึงข้าวแช่ คนรุ่นใหม่ ๆ อาจไม่ค่อยคุ้นกับรสชาติของเมนูไทย ๆ แบบโบราณนี้มากนัก หลายคนอาจจะสงสัยว่าข้าวแช่คืออะไร ช่วยดับร้อนได้จริงหรือ ต้องบอกเลยว่าทานแล้วสดชื่นแน่นอน เพราะตัวข้าวนั้นให้วิตามินบี และบรรดาเครื่องเคียงต่าง ๆ ทั้งกะปิหวาน ไชโป๊ พริกหยวกสอดไส้ ยังเต็มไปด้วยวิตามินเอ ช่วยให้ผิวของเราเย็นและระบบประสาทสงบ รู้สึกสบายด้วยนะ

ต้นกำเนิดความเป็นมาของ “ข้าวแช่” นั้น ว่ากันว่าเดิมเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ เรียกกันว่า “เปิงด้าจก์” แปลว่า ข้าวน้ำ (“เปิง” หมายถึง “ข้าว” และ “ด้าจก์” หมายถึง “น้ำ”) โดยนิยมทำถวายเทวดาและถวายพระสงฆ์ในช่วงสงกรานต์ เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ผู้ถวาย ต่อมาชาววังของไทยได้นำมาต่อยอด จนกลายเป็นชื่อ “ข้าวแช่เสวย” หรือ “ข้าวแช่ชาววัง” ที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยเป็นการนำข้าวสวยมาแช่ในน้ำลอยดอกมะลิ แล้วอบควันเทียนจนหอม เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง อย่างลูกกะปิ (กะปิปั้นเป็นก้อนกลมทอด) หอมแดงยัดไส้ (หอมแดงสอดไส้หมูฝอยทอด) พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอย และอีกหลากหลาย กระทั่งได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายจนเป็นสุดยอดเมนูคลายร้อนในปัจจุบัน

ตัวข้าวนั้นให้วิตามินบี และบรรดาเครื่องเคียงต่าง ๆ ทั้งกะปิหวาน ไชโป๊ พริกหยวกสอดไส้ ยังเต็มไปด้วยวิตามินเอ ช่วยให้ผิวของเราเย็นและระบบประสาทสงบ รู้สึกสบายด้วยนะ

รู้จักกับตำนานข้าวแช่กันแล้ว วันนี้เรามี 5 ร้านข้าวแช่สูตรเด็ดที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอมเย็นชื่นใจ และรสชาติแสนอร่อยทั้งใน กทม. และจังหวัดต่าง ๆ มาฝากทุกคนกัน

ภาพ: เฟซบุ๊ก ข้าวแช่แม่ศิริ บางลำพู

1. ข้าวแช่แม่ศิริ
เมื่อคิดถึงข้าวแช่ หลายคนต้องนึกถึงร้านข้าวแช่แม่ศิริสุดฮอตย่านบางลำพูอย่างแน่นอน แม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ ริมถนน แต่ชื่อเสียงข้าวแช่ที่นี่โด่งดังระดับตำนานของคนกรุงเทพฯ เลยทีเดียว เพราะเป็นข้าวแช่สูตรมอญแท้ ๆ มีความพิถีพิถันใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกเมล็ดข้าวเสาไห้มาขัดล้างให้ยางข้าวออกจนได้เมล็ดข้าวที่ขาวสวย จากนั้นนำมานึ่งสุกแล้วนำมาผึ่งไว้จนแห้งและเย็นตัว ส่วนน้ำที่ใช้กับข้าวแช่เป็นน้ำกรองสะอาด นำไปอบควันเทียนจนหอม พร้อมลอยดอกมะลิที่ปลูกเองแบบไร้สารพิษ เมื่อทานคู่กับเครื่องเคียงต่าง ๆ ทั้งไชโป๊หวาน ลูกกะปิทอด หมูฝอย และปลาหวาน บอกได้คำเดียวว่าฟินเวอร์จ้า

พิกัดร้าน: ซอยไกรสีห์ ถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร โทร. 081 448 9924

ภาพ: เฟซบุ๊ก ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ สาขาสุราษฎร์ธานี

2. ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ
ร้านข้าวแช่ชื่อดังส่งตรงจากตำบลท่ายาง หรือที่นักทานข้าวแช่รู้จักกันในชื่อ “ข้าวแช่ช้อนทองเสวย” สำหรับใครที่อยากลิ้มลองรสชาติข้าวแช่สไตล์ชาววัง บอกเลยว่าต้องร้านนี้ เพราะรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยสูตรดั้งเดิมตำรับเพชรบุรี ทั้งยังโดดเด่นด้วยถ้วย จาน ชาม ช้อนทองเหลือง และการใช้วัตถุดิบคุณภาพสดใหม่ทุกวัน โดยข้าวมีการขัดเพื่อไม่ให้บูดง่าย ส่วนน้ำอบควันเทียนลอยดอกมะลิและดอกชมนาดให้กลิ่นหอม เมื่อทานคู่กับเครื่องเคียง 4 อย่าง ทั้งปลายี่สน ไชโป๊หวาน กะปิทอด และหมูเส้นปรุงรสให้ความรู้สึกเย็นชื่นใจ รับรองสายข้าวแช่ชาววังฟินแน่นอนโดยเฉพาะชาวสุราษฎร์ธานี เพราะปัจจุบันขยายสาขามาให้ชาวใต้ได้อร่อยกันแล้ว แถมถ้าเป็นลูกค้าดีแทค ยังได้ ส่วนลดจาก dtac reward อีกด้วยนะ

พิกัดร้าน: ตลาดสำเภาทอง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ใกล้กับร้านขายยาอึ้งเอี๊ยะซือ) ตรงหัวมุมติดกับทางออกไปถนนดอนนก โทร.081 569 2299

ภาพ: เฟซบุ๊ก Banya Thai Restaurant & Home Cooking

3. บ้านย่า
อีกหนึ่งร้านข้าวแช่ที่ได้ชื่อว่ารสชาติอร่อยไม่แพ้ใคร ข้าวแช่ของร้านบ้านย่าเป็นข้าวแช่สูตรชาววัง มีสีสันสวยงามจากข้าวสีม่วงคราม โดยทางร้านจะนำข้าวไปหุงด้วยน้ำอัญชัน มีกลิ่นหอมจากการอบควันเทียนและดอกมะลิจนหอมกรุ่นชวนกิน พร้อมด้วยเครื่องเคียงครบสูตร มีทั้งพริกหยวกสอดไส้หมูปรุงรสกะปิกวนชุบไข่ทอด ไชโป๊ผัด หอมใหญ่ยัดไส้ปลา และหมูเส้น กินแกล้มกับผักสดแล้วชื่นใจจริง ๆ

พิกัดร้าน : ตั้งอยู่ใกล้กับแยกแคราย ถนนติวานนท์ อ.เมืองจ.นนทบุรี โทร. 02 591 0315

ภาพ: เฟซบุ๊ก บ้านวรรณโกวิท

4. บ้านวรรณโกวิท
ร้านข้าวแช่ตำรับชาววังแท้ ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านไม้เก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันมีอายุกว่า 100 ปี วันไหนจะไปควรจองคิวกันล่วงหน้า เพราะที่นี่มีโต๊ะให้บริการเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมค่ะ เพราะนอกจากรสชาติข้าวแช่ตำรับชาววังขนานแท้ที่สืบทอดสูตรมาจากในวัง ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบันแล้ว ยังได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศย้อนยุคที่หาได้ยาก ได้อารมณ์ชาววังสุด ๆ ไปเลย

พิกัดร้าน : ซอยดำเนินกลางใต้ ถนนราชดำเนินกลาง ใกล้กับถนนตะนาว โทร. 081 922 6611

ภาพ: เฟซบุ๊ก Jim Thompson Restaurants (Thailand)

5. ข้าวแช่จิม ทอมป์สัน
ส่วนใครที่ไม่ชอบความจำเจ ต้องมาลองข้าวแช่ของจิมทอมป์สัน ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยที่นี่จะเสิร์ฟข้าวแช่ 2 สี คือสีขาวและสีดอกอัญชัญ แช่ในน้ำปรุงอบร่ำควันเทียนและกลิ่นดอกไม้ โรยด้วยดอกชมนาดและกลีบกุหลาบมอญ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ทั้งลูกกะปิทอดที่ทำจากกะปิคุณดี นำมาโขลกละเอียดเคล้าความหอมของกระชาย พริกหยวกสอดไส้ หอมแดงสอดไส้ที่เลือกใช้หอมโทนจากราชบุรี โขลกกับเนื้อปลาช่อนแดดเดียว ปลาเค็มชุบแป้งทอด ไชโป๊ผัดหวาน และปลายี่สนผัดหวาน กินคู่กับผักแนมปลอดสารและผลไม้สดรสเปรี้ยวอย่างมะม่วงแรดแปดริ้ว กระชาย แตงกวา และพริกชี้ฟ้า บอกได้เลยว่าตอบโจทย์คนชอบความแปลกใหม่แน่นอน

พิกัดร้าน : ซ.เกษมสันต์ 2 สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ โทร. 02 612 3601

ชื่นใจคลายร้อนกันอย่างเต็มที่กับร้านข้าวแช่สุดฮอตกันไปแล้ว แต่ถ้าใครยังต้องการเติมความหวานเย็นจี๊ดจ๊าดกับของหวานดับร้อนกันต่อ ได้เลย dtac reward มีส่วนลดพิเศษให้ทั่วประเทศ ดูรายได้ละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ แล้วพิมพ์คำที่ต้องการ เช่น “ไอศกรีม” “บิงซู” ในช่อง Search รับรองว่าสายหวานต้องฟินแน่นอน

โปรโมชันแนะนำ

บทความแนะนำ