ตะลุย “ชัยปุระ” กับ 6 จุดเช็คอินสุดว้าว สวยตะลึงไม่รู้ลืม ตะลุย “ชัยปุระ” กับ 6 จุดเช็คอินสุดว้าว สวยตะลึงไม่รู้ลืม
จูน

จูน

21 พฤษภาคม 2562

SHARE THIS

ตะลุย “ชัยปุระ” กับ 6 จุดเช็คอินแห่งดินแดนภารตะ - LIV | dtac

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ “ชัยปุระ” (Jaipur) หรือ “นครสีชมพู” (The Pink City) หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสีสันสวยงามของประเทศอินเดียที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันงดงามมากมายที่น่าไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาส ขณะที่ภาพในความนึกคิดของอีกหลายคนก็แอบหวั่นเรื่องกลิ่นของอาหารการกินที่หนักไปทางเครื่องเทศอย่างมาก หรือเรื่องการเดินทางที่ไม่สู้จะสะดวกนัก แต่หากคุณได้ลองมาสัมผัสเมืองชัยปุระสักครั้งละก็ รับรองว่าคุณจะต้องเปลี่ยนความคิด หรืออาจถึงขั้นตกหลุมรักเมืองนี้จนต้องรีบชวนก๊วนเพื่อนเก็บกระเป๋ากลับไปสะบัดสาหรี่อีกแน่นอน

หากจะเทียบเมืองชัยปุระ หรือ “ชัยปูร์” ซึ่งแปลว่า เมืองแห่งชัยชนะ กับเมืองอื่น ๆ ของอินเดีย ชัยปุระคือเมืองเล็ก ๆ ของรัฐราชสถาน ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของอินเดียที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ 300 กว่าปี แต่มีสีสันและเสน่ห์ไม่แพ้เมืองเก่าแก่ของอินเดียเลย เพราะตัวอาคารอวดสีชมพูอมส้มโดดเด่นไปทั่วเมือง จนถูกขนานนามว่าเป็นนครสีชมพู และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน และนี่คือ 6 จุดเช็คอินของนครสีชมพูที่ต้องแวะไปให้ได้เมื่อคุณไปเยือน

1.พระราชวังหลวง หรือ ซิตี้ พาเลซ (City Palace) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชสถาน สร้างขึ้นในสมัยมหาราชา สะหวาย จัย สิงห์ที่ 2 (Maharaja Sawai Jai Singh ll) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของราชวงศ์ชัยปุระ สร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับประดาด้วยกระจกและแก้วหลากสี พระราชวังแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงเรื่องจิตรกรรมฝาผนังสุดอลังการ ซึ่งใครที่ชอบงานตกแต่งด้วยแก้วสีสันต่าง ๆ จะต้องเพลินไปกับการเที่ยวชมที่นี่แน่นอน ปัจจุบันบางส่วนยังคงเป็นที่ประทับของราชตระกูล และมีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีค่ามากมายให้ผู้คนเข้าชมกันได้ โดยพื้นที่ภายในพระราชวังแห่งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกติดกับทางเข้าทั้งแถบ เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ส่วนที่สองเป็นที่พักของมหาราชาคนปัจจุบันและครอบครัว และส่วนสุดท้ายเปิดเป็นโรงแรมฟาเตห์ปรากาชพาเลซ (Fateh Prakash Palace Hotel) และโรงแรมซิฟนิวาสพาเลซ (Shiv Niwas Palace Hotel)

2.พระราชวังแห่งสายลม หรือ ฮาวา มาฮาล (Palace of the Wind-Hawa Mahal) พระราชวังริมถนนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเปรียบดั่งสัญลักษณ์สำคัญประจำเมืองชัยปุระแล้ว ยังเป็นแลนด์มาร์คที่สายเซลฟี่ต้องมาเยือน พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) เมื่อปี 1799 มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายสีชมพูอมส้ม หน้าตาละม้ายคล้ายรวงผึ้งตามแบบสถาปัตยกรรมฝาผนังสไตล์ราชปุตที่ถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฎพระนารายณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารจึงเป็นสีชมพูสวยงามสมกับฉายาว่า “เมืองสีชมพู” ขณะเดียวกัน ยังมีหน้าต่างฉลุช่องลม 953 ช่อง เพื่อให้นางสนมในวังได้แอบมองเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านและกิจกรรมนอกขอบวังโดยไม่ถูกจับตามอง และบรรดาช่องเล็ก ๆ ของหน้าต่างก็เป็นตัวช่วยระบายอากาศภายในพระราชวัง ดังมีสายลมพัดโชยอยู่ตลอดเวลา ทำให้ภายในอากาศเย็นสบาย แม้ภายนอกจะร้อนอบอ้าวเพียงใด ทั้งนี้คำว่า “ฮาวา” นั้นแปลว่า สายลม เป็นที่มาของชื่อพระราชวังสายลมนั่นเอง

3.ป้อมปราการแอมเบอร์ (Amber Fort) และพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท (Amber Palace) แอมเบอร์ ฟอร์ด ป้อมปราการที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมระหว่างศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุตอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งตระหง่านโดดเด่นบนยอดผาหินเหนือทะเลสาบเมาตา (Maota) ซึ่งการชมต้องนั่งช้างขึ้นไปบนยอดเนินเท่านั้น เสมือนได้เป็นมหาราชาและมหารานีแห่งชัยปุระเลยทีเดียว แถมได้เพลินไปกับวิวทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง แค่นี้ก็ฟินแบบสุด ๆ แล้ว และทันทีที่ถึงด้านบน คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับความอลังการของพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ทอันสวยงามบนยอดเขา ซึ่งเดิมทีพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ พื้นที่ภายในจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน แต่ละส่วนมีรายละเอียดและลวดลายแตกต่างกันไป ทั้งตำหนักที่ใช้ว่าราชการ พระตำหนักที่ประตูทำด้วยงาช้าง และตำหนักส่วนพระองค์ของมหาราชาและมหารานีที่ตกแต่งงดงามด้วยเศษกระจกและกระเบื้อง และมีสวน Char Bagh อยู่ภายในพระราชวังด้วย และเมื่อมองลงมาก็จะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงาม เป็นภาพที่คุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน

4.หอดูดาว “จันตาร์ มันตาร์” (Jantar Matar) สถานที่ท่องเที่ยวด้านดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของชัยปุระ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามซิตี้ พาเลซ โดยเป็นหอดูดาวยุคโบราณที่มหาราชา สะหวาย จัย สิงห์ที่ 2 (Maharaja Sawai Jai Singh ll) ซึ่งมีความสนพระทัยในดาราศาสตร์ใช้เป็นเครื่องมือในการทำนาย ดูวันและเวลา โดยการคำนวณพระจันทร์ ดวงดาว และพระอาทิตย์ ผ่านสถาปัตยกรรมรูปทรงเลขาคณิตโบราณหลากหลายชนิด โดยไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่ “หอนาฬิกาแดด” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง 28 เมตร ซึ่งวัดเวลาได้อย่างแม่นยำ และใช้ได้จริงมาจนถึงปัจจุบัน จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2010 บอกได้เลยว่าใครที่ชอบถ่ายภาพแนวชิค ๆ ห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด เพราะมีมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก

5.จันเบารี (Chand Baori) หรือบ่อน้ำแบบขั้นบันไดโบราณ ได้ชื่อว่าเป็นบ่อน้ำขั้นบันไดโบราณที่ลึกและใหญ่ที่สุดที่สุดในอินเดีย สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านอะบาห์เนรี ในเขตดาอุษา ใกล้กับชัยปุระ บ่อน้ำขั้นบันไดโบราณแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ในช่วงฤดูร้อน กษัตริย์ Chanda จึงได้รวบรวมชาวเมืองมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างบ่อน้ำขึ้น เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ โดยบ่อน้ำมีความลึกถึง 100 ฟุต ขนาดสูง 13 ชั้น และมีขั้นบันไดถึง 3,500 ขั้น เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงการวางแผนและการจัดการที่ดีของคนในยุคโบราณ

6.ทัชมาฮาล (Taj Mahal) สถาปัตยกรรมแห่งความรักอันลือชื่อและสวยที่สุดในโลกที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากไปสัมผัสสักครั้ง นอกจากความงดงามประดุจภาพวาด จนได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่แล้ว ยังเป็นตัวแทนของความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าชาห์เยฮัน กษัตริย์อินเดียผู้มีรักมั่นคงต่อ พระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์ โดยส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุดคือหลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมรา และเครื่องประดับจากมิตรประเทศ โดยมีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1632 – 1654) ทีเดียว

ชัยปุระคือเมืองเล็ก ๆ ของรัฐราชสถาน ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของอินเดียที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ 300 กว่าปี แต่มีสีสันและเสน่ห์ไม่แพ้เมืองเก่าแก่ของอินเดียเลย เพราะตัวอาคารอวดสีชมพูอมส้มโดดเด่นไปทั่วเมือง จนถูกขนานนามว่าเป็นนครสีชมพู

เป็นอย่างไรบ้าง 6 จุดเช็คอินเมืองชัยปุระที่แนะนำกัน สำหรับนักท่องเที่ยวสายโซเชียลรับรองว่าเมืองนี้จะทำให้คุณอมยิ้มและต้องอยากกลับมาเยือนแดนภารตะกันอีกครั้งแน่ แต่สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้เลยในการเดินทางท่องเที่ยวทุกทริปก็คือการพกอินเทอร์เน็ตติดตัวไปด้วย ลองหาซิมดี ๆ อย่าง ซิมโกอินเตอร์จากดีแทค ซิมเดียวจบ ครบ ง่าย ไปช่วยคุณอัพรูปวิวสวย ๆ มุมเก๋ ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ตาร้อนทั้งโซเชียลก็ไม่เลวนะ และ สำหรับลูกค้าดีแทคทุกคนยังได้รับส่วนลดอีก 8% ไปเลยเมื่อจองที่พักในชัยปุระผ่านเว็บไซต์อโกด้า ได้ทั้งรูปสวย ๆ และที่พักราคาพิเศษแบบนี้ รับรองว่าการเดินทางตลอดทริปนี้ของคุณจะแฮปปี้เวอร์อย่างแน่นอน

โปรโมชันแนะนำ

บทความแนะนำ