แนะนำ 3 รุ่นโทรศัพท์ Realme สเปกแรง เทียบชั้นตัวท็อป

ใครที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนอย่าง Oppo แต่อยากมองหาแบรนด์ที่ราคาลดลงมาอีกหน่อย คงหนีไม่พ้น Realme อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์ Realme เองก็มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลายสเปก มีทั้งแบบใช้งานพื้นฐาน จนระดับสเปกเยี่ยมที่ทดแทนรุ่นใหญ่จากค่ายอื่น ๆ ได้ไม่แพ้กัน บทความนี้จะพามาแนะนำ 4 โทรศัพท์ Realme ที่น่าสนใจ สเปกเทียบชั้นตัวท็อปแบรนด์ดังได้ ในราคาที่สบายกระเป๋ามากกว่า

Realme X7 Pro 5G

เริ่มต้นกันด้วยรุ่นเรือธงจากทางค่าย สำหรับโทรศัพท์ Realme X7 Pro 5G ที่รองรับการใช้งานบริการสัญญาณ 5G โดยใส่ซิม 5G ได้ถึง 2 ซิมพร้อมกัน เมื่อผสานกับสเปกของเครื่องแล้ว ยิ่งทำให้ใช้งานได้อย่างน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

ในด้านการออกแบบตัวเครื่องของโทรศัพท์ Realme รุ่นนี้จะเน้นเรื่องดีไซน์ความบางของตัวเครื่องเป็นหลักอยู่แล้ว โดยเครื่องบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 184 กรัม มุมตัวเครื่องโค้งมนสวยงาม พื้นผิวของฝาหลังมีความประกายสะท้อนเหมือนคริสตัล มี 2 สีให้เลือกคือ สี Aerolite Black (สีดำ) และสี Iridescent (สีรุ้ง) ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีทำพื้นผิวให้ออกมามีการเคลื่อนไหวของสี พร้อมทั้งเคลือบทับเพื่อความสวยงามและทนทาน นอกจาากดีไซน์จะสวยแล้วยังแบตเตอรีอึด เพราะให้มาถึง 4500 mAh สามารถรับชมวิดีโอได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง มีสายชาร์จไวมาให้ 65W เป็น SuperDart Charge ชาร์จเต็ม 100% ในครึ่งชั่วโมง

และด้วยความเป็นโทรศัพท์ Realme รุ่นเรือธง เรื่องของประสิทธิภาพในการถ่ายภาพก็ไม่แพ้ใคร มีกล้องหลังมาให้ 4 เลนส์ กล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX686 เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล ส่วนเลนส์มาโครและเลนส์ Portrait อย่างละ 2 ล้านพิกเซล โดนเด่นในเรื่องถ่ายภาพตอนกลางคืนในที่แสงน้อยได้อย่างมือโปร เพราะสามารถเก็บแสงและรายละเอียดในภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติและชัดเจน ด้วยโหมด Super Nightscape 4.0 ซึ่งมีให้ใช้ในการถ่ายวิดีโอด้วย ส่วนกล้องหน้าความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับกล้องหน้าสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น ๆ ในราคาเท่ากัน

สเปกอื่น ๆ ที่น่าสนใจของโทรศัพท์ Realme รุ่นนี้ก็คือมีระบบระบายความร้อน VC liquid cooling ระดับ eSports ด้วยการใช้วัสดุที่ดี และเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อน ทำให้อุณหภูมิลดลงกว่า 10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับเล่นเกมเพราะมีระบบสั่นสะเทือน Tactile Engine ลำโพง Dolby Atmos ให้เสียงทรงพลัง และหน้าจอที่ลื่นไม่มีสะดุด ด้วยอัตราการรีเฟลช 120Hz พร้อมอัตรา Touch Sampling rate อีก 240Hz ทั้งหมดนี้ราคาเต็มของโทรศัพท์ Realme X7 Pro 5G อยู่ที่ 14,990 บาท สำหรับลูกค้าดีแทคสามารถซื้อได้ในราคาเริ่มต้นที่ 5,990 บาทเท่านั้น

รายละเอียดเพิ่มเติม: คลิก

Realme 9 Pro+ 5G

มาต่อกันที่โทรศัพท์ Realme ที่เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายภาพ ทั้งเก็บบรรยากาศ หรือจะเป็น Protrait รวมถึงวิดีโอก็เก็บภาพสวยได้ตามต้องการ โดยกล้องหลังใส่มาด้วยกันทั้งหมด 3 เลนส์ด้วยกัน ต้องกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เลนส์ Super wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโครอีก 2 ล้านพิกเซล แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้โทรศัพท์ Realme 9 Pro Series ใช้สโลแกนว่า “Capture the light” เพราะมีการใส่เทคโนโลยีที่เรียกว่า ProLight Imaging Technology ผสานเข้ากับเซ็นเซอร์ระดับแฟลกซิป Sony IMX766 ที่ช่วยทำให้เก็บแสงไว้ในภาพถ่ายแม้จะถ่ายในพื้นที่แสงน้อยได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ระบบกันสั่น Optical Image Stabilization ที่ช่วยลดอาการเบลอของภาพในที่มืด และ AI ประมวลผลเพื่อลด Noise ในภาพได้ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ยังใช้กับการถ่ายวิดีโอได้ด้วย ที่สำคัญใครที่ชอบเซลฟี่หลายคน กล้องหน้าก็สามารถโฟกัสใบหน้าได้ครบทุกคน พร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

พูดถึงเรื่องกล้องแล้วในส่วนของงานดีไซน์ตัวเครื่องก็สวยเฉี่ยว ดูทันสบาย สีเครื่องมีการออกแบบมาให้เปลี่ยนสีได้ตามแสงแดด หรือที่เรียกว่า Light shift design โดยหากอยู่ในที่ร่มตัวเครื่องจะเป็นประกายสีฟ้า แต่เมื่อออกแดดจะเปลี่ยนเป็นสีส้มประกายเหมือนแสงแดด เรียกสีนี้ว่า Sunlight Blue ยิ่งทำให้โทรศัพท์ Realme 9 Pro+ ตัวนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น แต่นอกจากสีนี้แล้วก็ยังมีสี Aurora Green และ Midnight Black ที่สวยโดดเด่นไม่แพ้กัน ในส่วนของขนาดหน้าจอโทรศัพท์ Realme 9 Pro+ อยู่ที่ 6.4 นิ้ว สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกได้บนหน้าจอ และใส่ได้ทั้งหมด 2 ซิมเช่นเคย ความบางของเครื่องอยู่ที่ 7.99 มิลลิเมตรเท่านั้น น้ำหนัก 182 กรัม อัตราการรีเฟรช 90Hz ส่วนอัตรา Touch Sampling Rate อยู่ที่ 360Hz ถือว่าใช้งานได้ลื่นไหล สัมผัสไว้ไม่แพ้รุ่นเรือธง

ใครที่ชอบใช้โทรศัพท์ติดต่อกันเป็นเวลานานก็ไม่ต้องกังวล เพราะแบตเตอรี่ให้มาขนาด 4500 mAh เช่นเดียวกับโทรศัพท์ Realme X7 Pro 5G พร้อมระบบชาร์จไว SuperDart Charger 60W เพียงรอครึ่งชั่วโมงก็สามารถชาร์จแบตเต็ม 100% ได้เช่นกัน มีระบบ Vapor Chamber Cooling System ช่วยระบายความร้อนตัวเครื่อง พร้อมทั้งชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 920 5G บวกกับสเปกอื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งนอกจากจะใช้ถ่ายรูปสวยแล้ว สามารถใช้เล่นเกมได้เช่นกัน ราคาเต็มอยู่ที่ 12,990 บาท สำหรับลูกค้าดีแทค สามารถซื้อได้ในราคาเริ่มต้นที่ 6,990 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม: คลิก

Realme GT 5G

มาถึงโทรศัพท์ Realme อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจคือ Realme GT 5G เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 สำหรับรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นเรือธงที่เน้นเรื่องความเร็ว ความแรงในการใช้งานเป็นหลัก โดยใช้คอนเซ็ปต์ที่ว่า “เรือธงเร็วแรงเต็มสปีด” เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำไปใช้เล่นเกมเป็นหลัก ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงที่สเปกเทพครบทุกด้าน แต่ที่สำคัญคือราคาเต็มของเครื่องอยู่ที่ 19,990 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใส่มาให้ก็ถือว่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในตลาด

สำหรับหน้าจอของโทรศัพท์ Realme GT 5G ขนาด 6.43 นิ้ว คิดเป็น 91.7% ของพื้นที่จอทั้งหมด มีเซ็นเซอร์ตรวจแสงรอบทิศทาง ช่วยปรับความสว่างจอได้อย่างชาญฉลาด ออกแบบมาให้เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องใช้รีเฟลชเรตสูง ๆ และสัมผัสลื่น ๆ เพราะรีเฟชลเรตอยู่ที่ 120Hz ส่วนอัตรา Touch Sampling Rate สูงถึง 360Hz พร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED Fullscreen Display นอกจากนี้ยังได้หยิบเอาชิปเซ็ตตัวท็อปของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 888 มาใช้งาน เสริมให้เป็นสมาร์ตโฟนที่เร็วแรงยิ่งขึ้น และไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดไวเช่นเคย แม้จะเล่นเกมอยู่ เพราะแบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh และชาร์จไว 65W SuperDart Charge เรียกได้ว่าจาก 0 - 100% ใช้เวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญแม้จะสเปกเทพขนาดนี้ แต่เครื่องไม่ร้อนเพราะมีเทคโนโลยีระบายความร้อนมาให้ด้วย เป็น Stainless Steel Cooling System ซึ่งลดอุณหภูมิสูงสุดได้ 15 องศาเซลเซียส ช่วยให้ถือใช้งานสะดวก เครื่องไม่ร้อน ไม่พังไว

ในส่วนของการถ่ายภาพ โทรศัพท์ Realme ตัวนี้ก็ทำได้ดีมากสมกับเป็นรุ่นใหญ่ เพราะกล้องหลัง Sony 3 เลนส์ กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมีการใส่เลนส์มาโครมาให้ด้วย มีการใส่ฟีเจอร์ Ultra Nightscape 2.0 ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพตอนกลางคืน มี AI ช่วยประมวลผลความคมชัดของภาพ

แม้จะเป็นโทรศัพท์ Realme สายเท่ สายเกมเมอร์ แต่ก็มีการออกแบบมาสวยงามไม่แพ้รุ่นอื่น ตัวเครื่องบางเพียง 8.4 มิลลิเมตร และเบาเพียง 186 กรัม มีสีให้เลือกคือ Dashing Blue และ Racing Yellow ซึ่งเป็นสีเฉพาะของรุ่นนี้ ผลิตจากเทคโนโลยีหนังวีแกนแบบทูโทน ไม่ทำให้เกิดรอยนิ้วมือ เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนเกมเมอร์ในราคาไม่เกิน 2 หมื่นบาท แต่สำหรับลูกค้าดีแทค สามารถซื้อได้ในราคาเริ่มต้นที่ 11,990 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม: คลิก

ทั้งหมดนี้ก็เป็นโทรศัพท์ Realme ทั้ง 3 รุ่นที่หยิบมาแนะนำ แต่ละรุ่นก็มีสเปกของรุ่นตัวท็อปที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องกล้องประสิทธิภาพ สเปกประมวลผลขั้นเทพ ดีไซน์สวยสะดุดตา และที่สำคัญมาพร้อมราคาที่จับต้องได้